การเทรดแบบ Carry trade

Carry Trade  คือ เป็นการเทรดที่เน้นคู่เงินที่มีค่า Swap เป็น บวกเท่านั้น และใช้ระยะเวลาถือ ออร์เดอร์ นั้น ช่วงเวลาที่พอเหมาะ พอสมควร จัดเป็นการเทรดระยะยาว แนวคิดหลักของการเทรดระบบนี้คือ “ซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงและขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ ” เทรดเดอร์ยืมสกุลเงินที่ “ถูก” (มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ) เช่นเงินเยนญี่ปุ่น
     Carry Trade ถือเป็นกลยุทธ์ที่ง่ายที่ไม่ต้องใช้ความรู้ทางการเงินเป็นพิเศษ สิ่งที่คุณต้องรู้คือความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินที่คุณต้องการทำการค้า อย่างไรก็ตามคุณควรจำคุณลักษณะของ carry trade หากมีความอดทนพอที่จะรอนานเป็นเดือนหรือเป็นแรมปีเพื่อรับผลกำไรที่ดี ก็สมควรใช้มันอย่างแน่นอน ถ้า ถือทน และ ทนถือ

     วิธีการเทรด

  1. เริ่มจากมองหาคู่เงินที่มีค่า Swap สูงๆ 
  2. เปิดสัญญา Buy และ Sell พร้อมกันหรือใกล้เคียงกัน ในอัตราส่วนที่เท่ากัน เพื่อให้ ไม้ Buy และ Sell (Square trade) เพื่อ Hedge ผลกำไรขาดทุนกันเอง
    เช่น Buy Sell คู่เงิน USD/Vacanda ที่ราคา 10 บาท ,เมื่อราคาขึ้นไป 15 บาท
    Buy +5 ,Sell -5 หักลบกันลงตัวพอดี ไม่ว่าราคาจะไปทางไหนเราจะไม่ขาดทุน
  3. ถือไว้ เพื่อกินค่า Swap ในระยะเวลานาน ตราบที่เราพอใจ
  4. โดยการวางเงินเต็มจำนวณ หรือ Leverage 1:1 (1.00 Lot = 100,000 Unit)

     Carry Trade เราสามารถเทรดได้ 2 แบบ

1. Carry Trade ในโบรกเกอร์เดียวกัน

       ข้อดี​ ของ Carry Trade โบรกเกอร์เดียวกัน คือ สามารถโอนเงินจากบัญชีที่บวกมาบัญชีที่ลบได้สะดวก

       ข้อเสีย ของ Carry Trade โบรกเกอร์เดียวกัน คือ โบรกเกอร์อาจจะไม่ให้ถอนเงินก็ได้ ถ้าในวันนึงนโยบายของโบรกเกอร์เปลี่ยนไป

2. Carry Trade โบรกเกอร์ข้ามโบรก

       ข้อดี​ ของ Carry Trade โบรกเกอร์ข้ามโบรก คือ หมดปัญหาเรื่องข้ออ้างของโบรกเกอร์ในการถอนเงิน เพราะโบรกเกอร์จะเป็นออเดอร์เพียงฝั่งเดียว

      ข้อเสีย ของ Carry Trade โบรกเกอร์ข้ามโบรก คือ ความยุ่งยากในการถอนจากบัญชีโบรกเกอร์ที่บวกมาใส่บัญชีโบรกเกอร์ที่ลบ

      โดยส่วนตัวแนะนำให้ Carry Trade โบรกเกอร์ข้ามโบรก แต่ต้องคำนวนการติดลบให้ดีว่าสามารถรอการโอนเงินจากอีกโบรกเกอร์ได้นานเท่าไหร่

     คุณสมบัติของการเทรดแบบ Carry Trade

1. การเทรดแบบนี้สอดคล้องกับการเทรดระยะยาวเท่านั้น ดังนั้นคุณควรรู้วิธีที่จะทำงานในระยะเวลาที่ยาวนาน สิ่งสำคัญคือต้องรู้การแยกการปรับฐานของคู่เงินที่สามารถเกิดขึ้นได้หลายวันจากการกลับตัวของแนวโน้มโลก กลยุทธ์นี้จะไม่ให้กำไรหากคุณคุ้นชินกับ active trading คุณควรจะนิ่งและมั่นใจในกลยุทธ์ของคุณ เปิดตำแหน่งเพียงไม่กี่เดือนและคุณจะได้รับผลตอบแทน 

2. carry Trade เป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงต่ำ อย่าคาดหวังกำไรที่จะสูงมากเช่นกัน (กฎ: ความเสี่ยงที่สูงขึ้น – กำไรที่สูงกว่า ความเสี่ยงต่ำกว่า – กำไรต่ำ) หากคุณต้องการใช้กลยุทธ์นี้และมีกำไรมากขึ้น คุณต้องมีเงินฝากมากขึ้น

3. Carry Trade ก็คือการทำกำไรจาก Swap หรือ อัตราดอกเบี้ย

     ลักษณะการง่ายๆ 2 อย่างที่จะเลือกคู่สกุลเงินในการ Carry Trade

1. หาคู่สกุลเงินที่มีความต่างของอัตราดอกเบี้ยมาก

2.หาคู่สกุลเงินที่มีแนวโน้มที่มีเสถียรภาพ หรือ เป็นเทรนขาขึ้น และให้ผลตอบแทนสูง สิ่งนี้จะช่วยให้สามารถอยู่ในตลาดได้อย่างยาวนาน และได้กำไรจากผลต่างของอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลานานน   ความเสี่ยงที่เลือกใช้ Carry Trade1. ความเสี่ยงเรื่อง อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศที่ขึ้นลงได้ตลอด2. เรื่องของ ช่องว่าราคา Spread ค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ยังไม่ได้คิด3. จำนวนเงินทุน ความสามารถในการกู้ยืมเงิน ที่ต้องมีสูงมาก4. อัตราผลตอบแทนที่ไม่ได้เยอะมากเมื่อเทียบกับรูปแบบการลงทุนอื่นๆ และขนาดของเงินทุน5. ความยุ่งยากซับซ้อน เงื่อนไข วิธีการ (เช่นการไปกู้ที่ ญี่ปุ่นงี้) ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นอุปสรรคกับ “รายย่อย” ทั้งนั้นเลย