เทคนิคการเทรดแบบ Fibonacci(ฟีโบนักชี)

/ เทคนิคการเทรดForex แบบต่างๆ / By

     ถ้ากราฟไม่สวย กราฟเคลื่อนที่เฉื่อยชาพบเห็นกราฟเทรนด์ไม่ชัดเจน ไม่มั่นใจแนวรับ – แนวต้านแนะนำ งดเทรด ให้รอจนกว่าใจเราเชื่อว่าใช่ แต่มีอีกหนทางหนึ่งที่ช่วยได้คือ ใช้เครื่องมือ Fibonacci (เรียกสั้นๆ ว่า Fibo) =ช่วยตีแนวรับ-แนวต้านอัตโนมัติให้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเปิด-ปิดออเดอร์ได้อีกช่องทางหนึ่ง แม้แต่ผู้ที่เทรดหุ้นก็มีเครื่องมือ Fibonacci ช่วยวิเคราะห์กราฟเช่นกัน

Fibonacci(ฟีโบนักชี) คืออินดิเคเตอร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตลาด Forex และไม่ใช่แค่ในตลาด Forex เท่านั้นที่นิยมวิเคราะห์กราฟราคาด้วย Fibonacci Indicator แต่เทรดเดอร์ที่วิเคราะห์กราฟราคาด้วยปัจจัยทางเทคนิค (Technical Analysis) ต่างนิยมใช้ Fibonacci Indicator วิเคราะห์กราฟราคา ซึ่งหลักการทำกำไรจาก Fibonacci Indicator เป็นการตั้งราคาเป้าหมายจากแนวรับและแนวต้าน โดยให้ค่าตัวเลขของ Fibonacci เป็นราคาเป้าหมาย ซึ่งค่าตัวเลข Fibonacci แบบ Basic หลายคนอาจจะใช้เป็นอยู่แล้วหรือรู้อยู่แล้วว่ามีค่าตัวเลขอะไรบ้าง แต่ท้ายบทความนี้ผมจะแถมค่าตัวเลข Fibonacci ขั้นสูงเข้าไปให้เพื่อเพิ่มศักยภาพของ Fibonacci ให้วิเคราะห์กราฟราคาได้อย่างยอดเยี่ยมเลยครับ

และการวิเคราะห์กราฟราคาด้วย Fibonacci Indicator เป็นการวิเคราะห์กราฟราคาจากแนวรับและแนวต้าน ซึ่งเทรดเดอร์ส่วนใหญ่เข้าใจหลักการนี้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว จึงทำให้การวิเคราะห์กราฟราคาด้วย Fibonacci Indicator เป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้ง่าย แต่มีศักยภาพสูง

ถ้ากราฟไม่สวย กราฟเคลื่อนที่เฉื่อยชาพบเห็นกราฟเทรนด์ไม่ชัดเจน ไม่มั่นใจแนวรับ – แนวต้านแนะนำ งดเทรด ให้รอจนกว่าใจเราเชื่อว่าใช่ แต่มีอีกหนทางหนึ่งที่ช่วยได้คือ ใช้เครื่องมือ Fibonacci (เรียกสั้นๆ ว่า Fibo) =ช่วยตีแนวรับ-แนวต้านอัตโนมัติให้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเปิด-ปิดออเดอร์ได้อีกช่องทางหนึ่ง แม้แต่ผู้ที่เทรดหุ้นก็มีเครื่องมือ Fibonacci ช่วยวิเคราะห์กราฟเช่นกัน

วิธีตีเส้นแนวรับแนวต้านด้วยเครื่องมือ

1. เปิดหน้าจอกราฟคู่สกุลเงินที่คุณเทรดขึ้นมา มีข้อแม้ว่าให้เปิดที่ Time frame ใหญ่ เช่น D1, H4 สาเหตุที่เปิดหน้าจอกราฟ Time frame ใหญ่ในการตีเส้นแนวรับ-แนวต้าน เพราะ Time frame ใหญ่(เช่น D1,H4) มีแนวรับ-แนวต้านที่แข็งแรงและชัดเจน กล่าวคือ แรงซื้อแรงขายระหว่างสกุลเงินในคู่สกุลเงินที่จับคู่กันนั้นแปรผลเป็นกราฟที่ขึ้น-ลงเป็นจังหวะตามการแข็งค่า-อ่อนค่่า 

ยกตัวอย่าง กราฟของคู่สกุลเงิน USDJPY  เมื่อสี่เดือนก่อนมีค่าสูงสุดที่ 1 USD = 115 JPY พอผ่านมาอีกสามเดือนที่อยู่ 1 USD = 112 JPY และเดือนต่อมาต่ำสุดอยู่ที่ 1 USD = 99 JYP การขึ้นลงของสกุลเงิน JPY ต่อ 1 USD นั้นมีจังหวะสูงสุด/ต่ำสุดจนเกิดเป็นแนวรับ-แนวต้านที่ชัดเจนและแข็งแรง

2. จากหน้า Time frame H4 กราฟของคู่สกุลเงิน USDJPY เป็นเทรนด์ขาลง หรือขา sell (down trend) จาก X1 ถึง X2

3. คลิกปุ่ม Draw Fibonacci retracement4. คลิกค้างลงบนแท่งกราฟแท่งล่าสุดที่ X2 แล้วลากเม้าส์ถอยหลังไปยัง X1 ซึ่งเป็นแท่งกราฟที่เรื่มเป็นขาลงเสร็จแล้วปล่อยเมาส์5. ปรากฏเส้นแนวรับแนวต้านอัตโนมัติที่ Y1,Y2,Y3,Y4 ที่เกิดจากการใช้เครื่องมือ Fibonacci ช่วยทำให้เราไม่ต้องไล่ดูกราฟตีเส้นแนวรับ-แนวต้านด้วยมือเราเองหมายเหตุ : เส้น Fibonacci เป็นได้ทั้งเส้นแนวรับแนวต้าน เส้นที่แข็งแรงมากกราฟจะผ่านทะลุไปยาก เช่น เส้น 0.0,100.0,161.8,261.8 จึงควรระวังถ้าจะเปิดออเดอร์เมื่อกราฟอยู่ใกล้เส้นเหล่านี้ เพราะกราฟมักทะลุผ่านไปยาก แต่ถ้าทะลุผ่านไปได้กราฟมักลากยาก ให้หาจังหวะเปิดออเดอร์และควรเฝ้าหน้าจอ หากเราเปิด Time frame H4 ตีเส้นแนวรับแนวต้านด้วยเครื่องมือ fibonacci แต่เวลาเทรดจริงแนะนำเปิด Time frame ที่เล็กกว่า เช่น M30 เพราะเราสามารถมองห็นเส้นแนวรับแนวต้านที่พอดีสายตา

  •      ถ้าระหว่างเส้นแนวรับ-แนวต้านใดมีระยะแคบ เช่น รหว่าง Y3, กับ Y4 เราไม่ควรเปิดออเดอร์ buy,sell เนื่องจากระยะจุดที่กราฟเคลื่อนที่ขึ้น-ลง มีไม่มาก ทำให้เก็บกำไรยาก อีกทั้ง มีความไม่แน่นอนในการขึ้น-ลง ของกราฟ
  • ถ้ากราฟจดๆ จ่อๆ ที่เส้นแนวรับ-แนวต้านใด อย่าเพิ่งเปิดออเดอร์ รอให้แน่ใจจนกว่ากราฟทะลุผ่านไปได้จึงค่อยตัดสินใจ
  • Time frame D1 กราฟของคู่สกุลเงิน GBPUSD เป็นเทรนด์ขาขึ้น(ขา buy,up trend) จาก X1ถึง X2  เมื่อเราต้องการสร้างแนวรับ-แนวต้านด้วยเครื่องมือ fibonacci ให้ทำเหมือนเช่านกราฟขาลง ดังนั้นหลังจากคลิกปุ่ม fibonacci ให้คลิกค้างลงบนแท่นกราฟแท่งล่าสุดที่ X2 แล้วลากเมาส์ถอยหลังมายัง ซึ่งเป็นแท่งกราฟเริ่มเป็นขาขึ้น เสร็จแล้วปล่อยเมาส์

หมายเหตุ : คุณสามารถสร้างเส้นแนวรับ-แนวต้านด้วยเครื่องมือ fibonacci โดยลากจาก  X2 มายัง X4 หรือ X3 มายัง X4 ซ้อน X2X1ก็ได้

  • Time frame H1 เหมาะเทรดเพื่อเปิดออร์เดอร์ buy,sell เพราะมองเห็นแนวรับ-แนวต้านชัดเจน ซึ่งเกิดจากการใช้เครื่องมือ fibonacci สร้างแนวรับ-แนวต้านบนหน้าจอ Time frame D1  แต่เทรดที่ Time frame H1
  • ที่ X กราฟกำลังทดสอบราคาที่แนวต้าน X1 ถ้าผ่านไปได้กราฟมักขึ้นยาว ตรงนี้เป็นจังหวะเปิดออเดอร์ buy (หรือปิดออเดอร์ Sell ที่ค้างอยู่) แต่ใกล้แนวต้าน R2 กราฟอาจผ่านไปยากอีกด่านหนึ่ง เพราะกราฟเคยขึ้นสูงสุดที่ Z มาก่อน แต่ขึ้นไม่ไหว สุดท้ายดิ่งตามระยะ ab ถ้ากราฟจะไต่ขึ้นสกุลเงิน GBP จะต้องใช้พลังงาน buy สูงจึงจะสามารถขึ้นต่อไปยังราคา Z1 ได้
  • ย้อนมาที่ X ถ้ากราฟไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้าน R1 กราฟจะวกลงด้านล่างให้หาจังหวะเปิดออเดอร์ sell หรือปิดออเดอร์ buy ที่ค้างอยู่ แต่พอกราฟไปใกล้แนวรับ S1 ให้ดูว่ากราฟจะผ่านไปได้หรือไม่ ถ้าผ่านไปได้กราฟอาจลงยาว เพราะแนวรับตั้งแต่ S1 ลงไปเป็นแนวรับที่อ่อน เพราะระยะระหว่างเส้นแนวรับแต่ละเส้นแคบ แต่พอถึงแนรับที่ 0.0(ดูที่Y) ถือว่าเป็นแนวรับที่แข็งแรงมากเส้นหนึ่งของ fibonacci

หมายเหตุ : ถ้าทำเส้นแนวรับ-แนวต้านที่ Time frame H4,H1 ด้วยเครื่องมือ fibonacci คุณอาจต้องทำซ้ำมากกว่าหนึ่งครั้งในวันนั้นเพราะแรงซื้อขายเปลี่ยนไปแล้ว แต่ถ้าเคยทำที่ D1 ไม่จำเป็นต้องทำใหม่เพราะกราฟ 1 วันมีเพียงแท่งเดียว
วิธีลบเส้นแนวรับ-แนวต้าน     ที่เคยทำขึ้นจากเครื่องมือ fibonacci ทำโดยเปิดหน้าจอที่ Time frame ที่คุณเคยใช้ทำเส้นแนวรับ-แนวต้านจากนั้นกดปุ่ม Zoom in ขยายภาพให้ใหญ่ขึ้น ให้ดับเบิลคลิกลงบนเส้น Fibonacci จนปลายทั้งสองปรากฏเป็นจุดสีขาวเล็กๆ แล้วคลิกขวาลงบนเส้น Fibonacci คลิก Delete แต่ถ้าคลิกที่ Objects List (ดูที่ X) เราสามารถลบวัตถุอื่นๆ ได้ด้วยเช่น เส้นเทรนด์,รูปสี่เหลี่ยม,รูปวงรี ฯลฯ ที่เราเคยทำไว้ ต้องการลบรายการใด(ดูที่ Y) ให้คลิกลงบนรายการนั้น, คลิก Delete (ดูที่ Z) เสร็จแล้วกดปุ่ม Esc